อุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ใช้แรงดันสูงในการทำงาน
อุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ใช้แรงดันสูงในการทำงาน
อากาศไม่ได้มีประโยชน์แค่เพียงไว้หายใจแต่อากาศหรือก๊าซยังมีพลังงานที่เต็มไปด้วยศักยภาพอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์ได้เมื่อมีการบีบอัดด้วยแรงดันสูง อากาศหรือก๊าซอัดที่มีการขยายตัวจะสามารถบังคับให้ลูกสูบเคลื่อนที่ด้วยแรงมหาศาลได้ยกตัวอย่างใน กระบอกลมนิวเมติกส์ แรงดันของก๊าซความดันสูงหรือเรียกง่าย ๆ ว่า แรงกดดันสูงนี้เป็นพื้นฐานของการทำงานของเครื่องมือที่เกี่ยวกับลม ซึ่งถ้าจะเห็นภาพอุปกรณ์นิวเมติกส์ที่ทำงานในลักษณะนี้ก็คือพวกกระบอกลมนิวเมติกส์นั่นเอง
แล้วอุปกรณ์นิวเมติกส์ใดบ้างที่ใช้แรงดันสูงในการทำงาน ?
กระบอกลมนิวเมติกส์
จะมีด้วยกันหลายประเภทหลายขนาด อย่างเช่น กระบอกลมนิวเมติกส์แบบทางเดียว (single-acting cylinder) กระบอกลมนิวเมติกส์แบบสองทาง (double acting cylinder) กระบอกลมนิวเมติกส์แบบโรตารี่(rotary air cylinder) กระบอกลมนิวเมติกส์แบบไม่มีแกน (Rodless Air Cylinder) เป็นต้น ข้อดีหลัก ๆ ของกระบอกลมไม่ว่าจะเป็นประเภทใด ๆ ก็คือ กระบอกลมนิวเมติกส์นั้นจะมีเสียงรบกวนน้อยกว่าระบบไฮดรอลิกอยู่มาก ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในการกระตุ้นให้ทำงาน เพียงแค่เรามีอากาศและปั๊มลมนิวเมติกส์ก็สามารถใช้งานกระบอกลมนิวเมติกส์ได้แล้ว อีกทั้งกระบอกลมนี้ยังใช้เชื้อเพลิงที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีการรั่วไหลของสารเคมีหรือของเสียใด ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
การควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์
การควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์
เนื่องจากว่ากระบอกลมนิวเมติกส์มีความได้เปรียบทางความเร็วและกำลังแรง ทำให้ระบบนิวเมติกส์เป็นที่นิยมมากในอุตสาหกรรมหลาย ๆ ด้าน แต่ภายในกระบอกลมนิวเมติกส์จำเป็นต้องมีการควบคุมตำแหน่งและความเร็ว เพื่อให้มีแรงและความเร็วที่เหมาะสมในแต่ละงานและไม่ให้กระบอกลมนิวเมติกส์เกิดการกระแทกเพราะความเร็วที่มากเกินไปได้นั่นเองค่ะ ซึ่งเราสามารถควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ได้ด้วยไดรฟ์และมอเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถควบคุมได้ดีกว่า แต่ข้อเสียคือมักจะมีความซับซ้อนและราคาสูงค่ะ ฉะนั้นในบทความนี้แอดมินจะบอกถึงอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์แบบอื่นกันค่ะ
สารบัญ
- ตัวกันกระแทกของกระบอกลม (Cushion Cylinders)
- กระบอกแบบมีแม่เหล็ก (Magnetic Cylinder Pistons)
- วาล์วควบคุมการไหล( Flow control)
- วาล์วเร่งระบาย (Quick Exhaust Valves)
- วาล์วกันตก (Blocking valve)
- บทสรุป
ตัวกันกระแทกของกระบอกลม (Cushion Cylinders)
ตัวกันกระแทกนี้ช่วยให้กระบอกลมนิวเมติกส์ทำงานช้าลงเมื่อสิ้นสุดจังหวะ มีประโยชน์ในการลดการกระแทกและเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจากการ break ระหว่างโลหะกับโลหะอย่างกะทันหัน ซึ่งส่วนใหญ่กระบอกลมนิวเมติกส์จะมีตัวกันกระแทกภายใน และสามารถปรังตั้งค่าได้ด้วย
กระบอกแบบมีแม่เหล็ก (Magnetic Cylinder Pistons)
ก้านลูกสูบกระบอกแม่เหล็กมีความสามารถในการตรวจจับตำแหน่งจังหวะด้วยรีดสวิตช์(Reed switch) โดยภายในลูกสูบจะมีแม่เหล็กเพื่อในการตรวจจับ เพื่อจะได้รู้ตำแหน่งของกระบอกลมนิวเมติกส์ ว่าเลื่อนอยู่ในตำแหน่งใดแล้ว และช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมทางของกระบอกลมได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ
วาล์วควบคุมการไหล (Flow control valve )
วาล์วควบคุมการไหลช่วยให้สามารถปรับความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ได้ โดยสามารถแบ่งได้ 3 แบบ ตามลักษณะของการทำงาน
- Flow control meter in ลักษณะการทำงานคือ ปรับลมขณะที่ลมเข้ากระบอก
- Flow control meter out ลักษณะการทำงานคือ ปรับลมขณะที่ลมออกจากกระบอก
- Direction flow control ลักษณะการทำงานคือ สามารถปรับได้ทั้งเข้าและออก
โดยปกติทั้วไปที่ใช้เยอะมากที่สุดที่ใช้คือ Flow control meter out คือ ปรับลมขณะขาออก โดยวิธีการปรับขณะที่กระบอกเลื่อนออกให้ปรับด้านหน้า และหากกระบอกลมถอยกลับให้ปรับด้านหลัง
วาล์วเร่งระบาย (Quick Exhaust Valves)
หน้าที่หลักของวาล์วเร่งระบาย คือ การเพิ่มความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ โดยการทำงานคือการเร่งระบายให้ออกจากกระบอกให้เร็วที่สุด
วาล์วกันตก (Blocking valve)
วาล์วกันตก (Blocking valve) มีหน้าที่เป็นวาล์ว Safety โดยการทำงานจะใช้สายลมอีกเส้นมาเพื่อยิงปลดล๊อค ลักษณะการทำงานมี 2 แบบ คือ แบบ One way และ แบบ Directional
บทสรุป
อุปกรณ์เหล่านี้ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวกันกระแทกของกระบอกลม กระบอกสูบแบบแม่เหล็ก วาล์วควบคุมการไหล วาล์วเร่งระบาย และวาล์วกันตก เป็นตัวช่วยควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ เพื่อให้สามารถควบคุมทิศทางและการไหลของลม และความเร็วในการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เรื่อง การควบคุมตำแหน่งและความเร็วของกระบอกลมนิวเมติกส์ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
- แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
วิธีการวัดหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์
วิธีการวัดหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์
ผู้อ่านเคยติดแหงกกับการวัดค่าบนไดอะแกรมที่บอกถึงวิธีการติดตั้งระบบนิวเมติกส์ไหมคะ? เพราะระบบนิวเมติกส์แต่ละระบบมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานของแต่ละโรงงาน และหลายปีทีผ่านมานั้น ผู้ผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ ต่างใช้วิธีการและมาตรฐานต่าง ๆ ที่หลากหลาย ทำให้การวัดค่ากระบอกลมนิวเมติกส์ไม่ตรงกันและเกิดความสับสน แต่ในปัจจุบันปัญหาความหลากหลายนี้ก็ลดลงค่ะ เพราะส่วนประกอบนิวเมติกส์สมัยใหม่ทั้งหมดจะถูกวัดค่าด้วยระบบสากลที่ได้รับมาตรฐานนั้นเอง
และสำหรับผู้อ่านท่านใดที่ยังสับสนในการอ่านค่าวัดกระบอกลมนิวเมติกส์อยู่หล่ะก็ ในบทความนี้แอดมินจะมาบอกวิธีการวัดหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์แบบง่าย ๆ กันค่ะ
สารบัญ
- วิธีการหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์
- บทสรุป
วิธีการหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์
แน่นอนว่าในแต่ละวัตถุประสงค์การใช้งานของกระบอกลมนั้น ย่อมมีความต้องการขนาด และกำลังของกระบอกลมนิวเมติกส์ที่แตกต่างกันออกไป แต่คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่างานแต่ละงานควรใช้ขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์เท่าไหร่
แอดมินจะอธิบายง่าย ๆ เลยนะคะ ก็คือผู้อ่านสามารถกำหนดพื้นที่ภายในลูกสูบนิวเมติกส์ได้ง่าย ๆ โดยใช้สูตร F=PA โดยที่ P คือความดัน และ A คือพื้นที่ และค่า F เท่ากับแรงทั้งหมด ดังนั้นเราจึงสามารถแก้สมการหาพื้นที่โดยใช้ A=F/P ได้โดยใช้ตัวเลขทั้ง 2 ตัวที่เรามีอยู่แล้ว เนื่องจากเราต้องรู้อยู่แล้วว่าเราต้องใช้แรงมากแค่ไหนในการทำงานประเภทที่เราสนใจ
และเมื่อรู้พื้นที่ทั้งหมดที่เราต้องการ เราสามารถนำมาคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางของกระบอกลมนิวเมติกส์ได้ โดยส่วนใหญ่ผู้อ่านจะได้ยินวิศวกรพูดถึงพื้นที่ของกระบอกลมนิวเมติกส์ว่าเป็นรู หรือ Bore ของกระบอกลม นี่เป็นการอ้างอิงถึงความจริงที่ว่ากระบอกลมนั้นต้องมีขนาดรูเท่านี้ เพื่อสร้างพื้นที่ (space) นี้
ในการหาขนาดรู ให้ใช้ square root ของพื้นที่แล้วคูณด้วย 1.1284 เพื่อหาเส้นผ่านศูนย์กลาง ฟังดูแล้วเหมือนยุ่งยากใช่ไหมคะ? แต่จริง ๆ แล้วใช้เวลาไม่กี่วินาทีด้วยเครื่องคิดเลขนะคะ แต่ถ้าไม่อยากคิดเลขให้วุ่นวาย ผู้อ่านก็สามารถใช้ตัวช่วย หรือเครื่องคำนวณขนาดวาล์ว (air valve sizing calculator) ที่สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ซึ่งจะบอกค่าแรงดันอากาศ ระยะกระบอกสูบ ระยะชัก และเวลาที่แต่ละจังหวะใช้ด้วย
แต่ในบางครั้ง ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องระบุข้อมูลเหล่านี้ด้วยซ้ำ เพราะโดยทั่วไปแล้วกระบอกลมนิวเมติกส์จะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรูเจาะที่เฉพาะเท่านั้น พิจารณา NCQ2 ซึ่งมีขนาดรูเจาะตั้งแต่ 12 มม. ถึง 100 มม. ตามรายละเอียดต่อไปนี้:
- 12mm
- 16mm
- 20mm
- 25mm
- 32mm
- 40mm
- 50mm
- 63mm
- 80mm
- 100mm
บทสรุป
ขนาดของกระบอกลมนิวเมติกส์จะแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ฉะนั้นการคำนวณค่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าความแรง ความดัน และพื้นที่ที่ต้องใช้งาน จึงมีความสำคัญเพื่อกำหนดขนาดของกระบอกลมนิวเมติกส์ที่ถูกต้อง ซึ่งสูตรสมการที่เราใช้ในการหาขนาดของกระบอกลมนิวเมติกส์ก็คือ A=F/P โดย P คือความดัน และ A คือพื้นที่ และค่า F เท่ากับแรงทั้งหมด แล้วนำไปหาขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งถ้าผู้อ่านคิดว่ากระบวนการคิดแบบ Manual นี้ใช้เวลานานเกินไป ผู้อ่านสามารถหาเครื่องมือช่วยในการวัดขนาดกระบอกลม ที่สะดวกสบายและสามารถวัดขนาดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งตัวช่วยนี้มีชื่อว่า bore sizing calculator โดยที่คุณสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีข้อมูลใด ๆ เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เรื่องวิธีการวัดหาขนาดกระบอกลมนิวเมติกส์ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง :
- สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
- แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
กระบอกลมนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1500-1600 Series
กระบอกลมนิวเมติกส์ Thai-A รุ่น 1500-1600 Series
บริษัท Thai-A เป็นตัวแทนจำหน่ายกระบอกลมนิวเมติกส์และอุปกรณ์นิวเมติกส์ของประเทศไทยที่มีคุณภาพและได้รับความเชื่อถือจากบริษัทแม่อย่าง Pneumax จากอิตาลี อย่างเป็นทางการมากว่า 40 ปี ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมารีวิวกระบอกลมนิวเมติกส์ของ Pneumax รุ่น 1500-1600 Series กันค่ะ
สารบัญ
- 1500 SERIES
- 1540-1550 EUROPE COMPACT SERIES
- 1560-1580 EUROPE COMPACT CYLINDERS SERIES
- 1605 SERIES
- บทสรุป
1500 SERIES
เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ขนาดกะทัดรัดพร้อม Stroke ระยะสั้น ที่เหมาะกับการทำงานที่มีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก เพราะลักษณะเด่นของกระบอกลม Series นี้คือ ระยะรวมสั้นมาก ๆ เมื่อเทียบกับกระบอกลมนิวเมติกส์ทั่วไป Speed กระบอกที่เร็วกว่า จึงสามารถ Lock หรือเคลื่อนที่ในระยะสั้น ๆ ได้แม้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เหมาะสำหรับงานประเภท Jig and Fixture ,งาน Clamp lock,งาน Stopper
1540-1550 EUROPE COMPACT SERIES
เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์กระบอกลมนิวเมติกส์ใน Series EUROPE COMPACT แบบใหม่ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน ISO 21287 เป็นตัวแทนของกระบอกลมขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดของ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด ด้วยกระบวนการผลิตที่สะอาดและถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งเครื่องจักรปัจจุบันมีความนิยมมาอีกรุ่นหนึ่ง โดยเครื่องจักรที่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ จะอย่ในกลุ่ม บรรจุภัณฑ์ประเภทอาหาร ขนมคบเคี้ยวทั่วไป อาหารประเภทแบบใส่ซอง เครื่องดื่มประเภทบรรจุขวด โดยมีขนาดตั้ง Bore 20-100 mm. เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ใน Series ECOMPACT ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางและแกนศูนย์กลางตามมาตรฐาน ISO 15552
1560-1580 EUROPE COMPACT CYLINDERS SERIES
กระบอกลมนิวเมติกส์ Series Europe นี้มีให้เลือกสองรุ่น แตกต่างกันตรงรูยึดโดยมีมาตรฐาน แบบ ISO และ แบบ UNITOP ขนาด ISO มีขนาดเริ่มต้นที่ Bore 32-100 mm. ส่วน สเปค UNITOP มีขนาดเริ่มต้นที่ 12-100 mm. โดยเครื่องจักรที่ใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ จะอยู่ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทอาหาร ขนมขบเคี้ยวทั่วไป อาหารประเภทแบบใส่ซอง เครื่องดื่มประเภทบรรจุขวด
1605 SERIES
เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไร้แกน หรือ Rodless Cylinder วัตถุประสงค์ของการผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไม่ใช้ก้านสูบคือ เพื่อให้ทางเลือกในการประหยัดพื้นที่มากกว่ากระบอกลมแบบเดิม การทำงานของกระบอกชนิดนี้จะทำงานเชิง Linear เป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบไม่มีแกน ที่ใช้เทคโนโลยีการปิดผนึกแถบสแตนเลสที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถทำงานหลากหลายรูปแบบ โดยจะทำงานในระบบการแบบเชิงเส้น (linear translation systems) มีขนาดกะทัดรัดมาก และสามารถใช้แทนกระบอกลมนิวเมติกส์ธรรมดาที่มีแกนสูบได้ ลักษณะสำคัญของกระบอกลมแบบมีสายคือไม่มีแกนลูกสูบ ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงานของกระบอกลมนิวเมติกส์นั่นเองค่ะ
บทสรุป
กระบอกลมนิวเมติกส์รุ่นข้างต้นที่กล่าวมานั้น อยู่ใน Series 1500 และ Series 1600 โดยเป็นกระบอกลมที่ถูกออกแบบตามมาตรฐาน ISO ทุกตัว และมีรูปแบบหลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์แบบมีแกน แบบไม่มีแกนสูบ หรือแบบมีสาย อุปกรณ์เหล่านี้ถูกผลิตโดยบริษัทชั้นนำ Pneumax จากอิตาลี และมี Thai-A เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยที่ได้รับความน่าเชื่อถือเป็นเวลานาน
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
- แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
สายการผลิตยานยนต์กับระบบนิวเมติกส์
การผลิตรถยนต์เชิงพานิชย์ในประเทศไทยมีเกือบทุกแบรนด์ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีทั้งฐานการผลิต ฐานการประกอบ รวมทั้งฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ฐานการผลิต เช่น Toyota, Isuzu, Mitsubishi, Honda เป็นต้น ส่วนฐานการประกอบ เช่น BMW, Triumph Ducati, Harley-Davidson ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ฐานในประเทศไทยผลิตและประกอบทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยมีการจ้างงานในกลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก โดยผลพวงเช่นนี้ทำให้เกิดการผลิตชิ้นส่วนพ่วงมาอีก 1 ระบบ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการใช้ระบบนิวเมติกส์เป็นส่วนการผลิตเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น สายการประกอบรถยนต์ สายการผลิตชิ้นส่วน ซึ่งรถยนต์มีอุปกรณ์ชิ้นส่วนเป็นจำนวนหลายหมื่นชิ้น
ซึ่งในระบบส่วนนี้ใช้ระบบนิวเมติกส์ค่อนข้างมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์ว สายลม ข้อต่อ ในสเปคที่ค่อนข้างพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น กันสะเก็ดไฟเชื่อม ทนต่อความร้อน และการเคลื่อนที่ต้องมีความคล่องตัวสูง
ชิ้นส่วนระบบนิวเมติกส์
ส่วนนี้จะพิเศษ ตัวอย่างชิ้นส่วนนิวเมติกส์ เช่น
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์
ในระบบนิวเมติกส์ การบำรุงรักษาส่วนประกอบทั้งหมดมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าระบบนิวเมติกส์จะทำงานเต็มศักยภาพ เพราะหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ความเสียหายมักจะเกิดขึ้น ทำให้การใช้งานของอุปกรณ์มีอายุสั้นลง และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของระบบ
สารบัญ
- การออกแบบระบบนิวเมติกส์
- ความสำคัญของการบำรุงรักษาประจำวัน
- บทสรุป
การบำรุงรักษาเป็นประจำ จะช่วยให้คุณสามารถตรวจหาชิ้นส่วนที่เสียหายหรือทำงานผิดปกติได้ ซึ่งทำให้คุณสามารถเข้าไปแก้ไขได้ทันท่วงที ดังนั้นอุตสาหกรรมต่าง ๆ ควรหมั่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีทีมงานที่เพียงพอในการตรวจรักษาระบบนิวเมติกส์ และดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ล่าสุดเพื่อให้แน่ใจว่ามีการบำรุงรักษาที่เพียงพอด้วยความรู้ที่ดีที่สุด
การออกแบบระบบนิวเมติกส์
เพื่อให้แน่ใจว่าความพยายามในการบำรุงรักษาจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เป็นสิ่งสำคัญมากที่ระบบนิวเมติกส์ของคุณได้รับการออกแบบด้วยความรู้ที่เพียงพอโดยนักออกแบบมืออาชีพที่มีประสบการณ์
ปัญหาหลักของระบบนิวเมติกส์ คือรูปแบบการวางท่อและการไหลของอากาศ ดังนั้นผู้ออกแบบจึงควรให้ความสำคัญเพียงพอกับการวางเครือข่ายท่อส่งและการไหลของอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการทำงานผิดพลาดน้อยที่สุด
สิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่งในการออกแบบระบบนิวเมติกส์ คือการออกแบบระบบให้มีความเรียบง่ายมากที่สุด เพื่อง่ายต่อการบำรุง ซ่อมแซม และง่ายต่อการหาจุดเสียหายนั่นเองค่ะ
ในระหว่างการซ่อมบำรุง คุณควรทำการตรวจสอบท่อทางไหลของอากาศและตัวกรอง เพื่อลดเสี่ยงในการเกิดความเสียหาย และควรตรวจสอบเป็นประจำเพื่อสามารถแก้ไขได้ทันเวลา และตรงจุดที่สุดค่ะ
ความสำคัญของการบำรุงรักษาประจำวัน
เมื่อเทียบกับระบบกลไกอื่น ๆ ระบบนิวเมติกส์สามารถทำงานได้ดีกว่ามาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะละเลยไม่บำรุงรักษานะคะ หากระบบนิวเมติกส์ได้รับการบำรุงในทุก ๆ วัน ปัญหาจุกจิกก็จะลดลง ฉะนั้นการบำรุงรักษารายวันจึงมีความสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบนิวเมติกส์สามารถทำงานได้ในสถานะที่ดีและพร้อมที่สุด
แนวทางในการบำรุงรักษาระบบนิวเมติกส์ประจำวัน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีวงจรที่ถูกต้อง ตลอดจนแผนภาพการทำงานของระบบนิวเมติกส์ และหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังการติดตั้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ดำเนินการตามคำแนะนำเรียบร้อยแล้ว
- ระวังไม่ให้วาล์วอิมพัลส์ของระบบนิวเมติกส์ได้รับสิ่งสกปรก แรงกระแทกทางกล และน้ำหล่อเย็นที่มากเกินไป
- ควรใช้ช่องเปิดวาล์วที่ผู้ผลิตกำหนดเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการเจาะหรือติดตั้งองค์ประกอบเพิ่มเติม เมื่อต้องการเปิดระบบใหม่
- หากคุณต้องการช่องเปิดเพิ่มเติม ให้ปรึกษากับผู้ผลิต และให้พวกเขาออกแบบระบบให้สำหรับคุณโดยเฉพาะ
- หน่วยบริการ (Service unit) ของระบบควรมองเห็นได้ชัดเจนและง่ายต่อการบำรุงรักษา ถ้าเป็นไปได้ก็ควรวางให้สูงกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ
- อย่าเพิ่มคันเร่งเกิน กว่าผู้ผลิตกำหนดไว้
- หากคุณกำลังถอดกระบอกสูบหรือวาล์ว ให้ดูแลวัสดุปิดผนึกด้วย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้วางตำแหน่งไว้อย่างเหมาะสมแม้ในขณะที่ประกอบอีกครั้ง
- วาล์วกระตุ้นแม้จะดูเหมือนใช้งานง่าย แต่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะควบคุมทิศทางที่ถูกต้องและด้วยความเร็วที่ต้องการเท่านั้น
บทสรุป
แม้ว่าระบบนิวเมติกส์จะไม่ค่อยมีปัญหาเกิดขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องบำรุงรักษาเป็นประจำทุกวัน หากมีเหตุขัดข้องครั้งใหญ่ บุคคลที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาควรตรวจหาข้อผิดพลาดและพยายามทำความเข้าใจธรรมชาติของปัญหา ถ้าปัญหาเหล่านั้นสามารถซ่อมได้ก็ควรทำตามแนวทางทั้งหมด หรือถ้าเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าที่จะซ่อมแซมก็ควรเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทั้งหมดค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เรื่อง แนวทางการบำรุงรักษานิวเมติกส์ประจำวัน หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับนิวเมติกส์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับนิวเมติกส์
คุณอาจจะไม่ได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่คุณรู้หรือไม่คะว่า นิวเมติกส์อยู่รอบ ๆ ตัวเราด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่บนรถบัส รถกระบะ หรือเครื่องบิน ระบบนิวเมติกส์หรือแรงดันลมล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้เครื่องจักร และเครื่องยนต์เหล่านั้นทำงานได้ค่ะ
- นิวเมติกส์หรือแรงดันลมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง?
- ประตูรถโดยสารสาธารณะ
- ระบบเบรก ในรถที่มีน้ำหนักมาก
- ปั๊มจักรยาน
- ปั๊มสุญญากาศ
- อุปกรณ์ออกกำลังกาย
- ระบบท่อ
- สรุป
นิวเมติกส์หรือแรงดันลมไม่ได้ถูกใช้แค่กับวัตถุเชิงกลที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้นนะคะ แต่ยังใช้กับสิ่งที่มีการพองตัวได้หรือสามารถเติมลมเข้าไปได้ เช่น ยางรถยนต์ เซ็นเซอร์แรงดันและตัวควบคุม และทุก ๆ อย่างที่มีการอัดอากาศเข้าไป
นิวเมติกส์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการทำให้สิ่งต่าง ๆ ทำงาน เนื่องจากสามารถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีและยังใช้งานได้ยาวนาน ด้วยการบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้นิวเมติกส์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมไปถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา แต่เรากลับมองข้ามมันด้วยค่ะ
ในบทความนี้แอดมินจะยกตัวอย่างนิวเมติกส์ที่เรานำเอามาใช้ และคุณก็เจอกับมันอยู่เป็นประจำกันค่ะ
นิวเมติกส์หรือแรงดันลมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง?
แอดมินเชื่อว่าผู้อ่านคงไม่คิดมาก่อนว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้นำเอาพื้นฐานของนิวเมติกส์มาใช้ มีอะไรกันบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ!
ประตูรถโดยสารสาธารณะ
ผู้อ่านคงเคยได้ยินเสียงเปิด ปิดประตูของรถเมล์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ประตูนั้นใช้นิวเมติกส์เข้ามาช่วย ใช่ไหมคะ? หลังจากนี้ผู้อ่านจะดูประตูรถโดยสารเปลี่ยนไป เพราะมันมีการใช้แรงดันลมเพื่อสร้างการทำงานของการเปิดและปิดซึ่งส่งผลให้มีการปล่อยอากาศ
ระบบเบรก หรือ ระบบโช๊คลม
ด้วยความที่น้ำหนักตัวรถมีมากกว่ารถปกติธรรมดาทั่วไป ตัวเบรกที่อยู่ในรถเล็ก ๆ ที่เราขับกับประจำ ย่อมไม่ช่วยให้รถหนัก ๆ เหล่านั้นช้าลง จึงต้องมีการนำระบบเบรกที่เอาแรงดันลมเข้ามาช่วย เพื่อใช้แรงมากขึ้นในการเบรกนั้นเองค่ะ
ปั๊มสุญญากาศ(Pump Vacuum)
ส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยมักเคยเห็นแต่ปั้มแบบใช้เป็นมีแรงดันเป็นบวก แต่ปั้มสุญญากาศจะตรงกันข้ามคือจะเป็นลบ ที่สังเหตุเห็นบ่อยๆก็จะเป็นงานยกกล่องทั่วไป
อุปกรณ์ออกกำลังกาย
คุณรู้หรือไม่คะว่า เครื่องปั่นจักรยานและลู่วิ่งแบบอยู่กับที่บางรุ่นใช้นิวเมติกส์? เครื่องจักรเหล่านี้ใช้แรงดันอากาศเพื่อให้คุณมีแรงต้าน ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณอยู่บนลู่วิ่งและกำหนดค่าการตั้งค่าเพื่อเพิ่มความลาดเอียง เครื่องนั้นจะใช้แรงดันลมเพื่อสร้างเอฟเฟกต์นี้นั่นเองค่ะ
ระบบท่อ
สมัยก่อน การขนส่งสิ่งของขนาดเล็กด้วยระบบท่อเป็นที่แพร่หลายมาก ซึ่งคุณอาจเคยเห็นสิ่งเหล่านี้ในภาพยนตร์หรือในธนาคาร เพราะเขาจะใช้ท่อส่งลำเลียงที่ใช้แรงดันลม เพื่อส่งจดหมายภายในอาคารขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันพวกเราก็ใช้อีเมล์ในการติดต่อสื่อสารกัน ทำให้เราไม่เคยเจอระบบท่อนี้เลย
สรุป
ตอนนี้คุณได้รู้มากขึ้นเกี่ยวกับนิวเมติกส์ และวิธีการใช้ในหลาย ๆ สิ่งที่คุณพบตลอดในชีวิตประจำวัน และคุณจะไม่สามารถมองปั๊มจักรยาน เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ หรือประตูขึ้นรถบัสในลักษณะเดิมอีกต่อไป ซึ่งตัวอย่างที่แอดมินได้กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนน้อย ๆ ของสิ่งที่ใช้นิวเมติกส์เท่านั้นนะคะ แต่คุณสามารถลองสังเกตสิ่งรอบ ๆ ตัวเองได้ และลองเดาว่าสิ่งนี้ใช้กฎพื้นฐานของนิวเมติกส์หรือไม่
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์
ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
5 ส่วนประกอบพื้นฐานในระบบนิวเมติกส์
5 ส่วนประกอบพื้นฐานในระบบนิวเมติกส์
หากคุณสังเกตสิ่งรอบตัวให้ดี ในชีวิตประจำวันของพวกเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีการใช้นิวเมติกส์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น สว่านลม เครื่องพ่นสีรถยนต์ และเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งมีการนำลมมาแปลงเป็นพลังงานกล ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของสิ่งต่าง ๆ นั้นเองค่ะ แต่การที่ระบบนิวเมติกส์จะทำงานได้ มันจะต้องมีส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำเนินงานในระบบนิวเมติกส์ ซึ่งในบทความนี้แอดมินจะมาบอกถึง 5 ส่วนประกอบพื้นฐานในระบบนิวเมติกส์กันค่ะ
- Compressor — สร้างลมอัด
- AIR TANK — ถังเก็บลมอัด
- AIR SERVICE UNIT — ควบคุมลมอัด
- VALVE หรือ SOLENOID VALVE อุปกรณ์ควบคุมการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ในระบบนิวเมติกส์
- AIR CLINDER ,ACTUATOR,MOTER — อุปกรณ์ที่นำลมอัดไปใช้เพื่อสร้างพลังงานกล
คอมเพรสเซอร์ (Compressor)
คอมเพรสเซอร์เป็นส่วนประกอบที่เปลี่ยนอากาศธรรมดาให้เป็นอากาศอัด โดยบีบให้มีความดันบรรยากาศประมาณ 7-10 เท่า (ในหน่วยวิทยาศาสตร์ 7-10 บรรยากาศ 700–1000 kPa หรือ 100–150 psi) คอมเพรสเซอร์เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับวงจรนิวเมติกส์เป็นบิตที่นำพลังงานเข้าสู่ระบบ โดยการบีบอัดอากาศลงในพื้นที่ที่เล็กกว่ามาก แม้ว่าคอมเพรสเซอร์จะไม่ได้ ‘สร้าง’ พลังงานขึ้นมา แต่เป็นส่วนประกอบที่แปลงพลังงานให้มีแรงดัน เพื่อนำไปใช้ในการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบนิวเมติกส์นั่นเองค่ะ
แอคทูเอเตอร์ (Actuator)
แอคทูเอเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รูปแบบของพลังงานเพื่อแปลงสัญญาณควบคุม ให้เป็นการเคลื่อนไหวทางกล โดยมีการหมุนเคลื่อนที่ในองศา ตั้งแต่ 45 องศา, 90 องศา,180 องศา,270 องศา,360 องศา รวมทั้งใช้สำหรับการเปิด-ปิด บอลวาล์ว
วงจร (Circuit)
แม้ว่าระบบนิวเมติกส์บางระบบ อาจมีคอมเพรสเซอร์ แอคทูเอเตอร์ วาล์ว และ Reservoir เพียงตัวเดียวในการทำงาน แต่หากเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ หรือต้องใช้กำลังมาก ระบบนิวเมติกส์ก็จะมีความซับซ้อนขึ้นไปอีก และอาจจะมีแอคทูเอเตอร์และวาล์วเพิ่มขึ้นมาอีกหลายตัว เพื่อให้มีแรงและกำลังที่เพียงพอในการทำงานของระบบนิวเมติกส์
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เรื่อง 5 ส่วนประกอบพื้นฐานในระบบนิวเมติกส์ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกท่อลมสำหรับระบบนิวเมติกส์
3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกท่อลมสำหรับระบบนิวเมติกส์
หากผู้อ่านต้องการให้ระบบนิวเมติกส์มีการทำงานที่ปลอดภัยและทนทาน คุณจะเลือกใช้ท่อลมพลาสติกแบบถูก ๆ หรือไม่? คำตอบคงเป็น ไม่ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนประกอบนิวเมติกส์อื่น ๆ ตามไปด้วย ฉะนั้นผู้อ่านจำเป็นต้องรู้จักวิธีการเลือกท่อลมที่ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อนำมาใช้กับระบบนิวเมติกส์ของคุณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยในบทความนี้แอดมินจะมาบอกถึง 3 ปัจจัยขั้นพื้นฐานที่จะช่วยให้คุณเลือกท่อลมอัดตามที่คุณต้องการ
1.ปริมาณแรงดันที่ท่อลมต้องใช้งาน
ผู้ผลิตท่อลมแต่ละรายจะบอกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าความดันที่ท่อลมสามารถทนได้ ในจำนวนระยะเวลาหนึ่ง รวมไปถึงอุณหภูมิที่ไม่ทำให้ท่อลมเกิดความเสียหาย
โดยบริษัท MEBRA ประเทศอิตาลี ให้ค่าสัมประสิทธิ์สำหรับพลาสติกทุกชนิดที่ใช้ในระบบนิวเมติกส์ ดังนี้
- โพลียูรีเทน (Polyurethane) – วัสดุสำหรับท่อลมทำงานที่อุณหภูมิตั้งแต่ – 20°C ถึง +60°C
- โพลิเอททีลีน (Polyethylene) – วัสดุท่อลมทำงานที่อุณหภูมิ -20°C ถึง +70 °C
- เทฟลอน (PTFE) – วัสดุสำหรับท่อลมที่ทำงานที่อุณหภูมิสูงมากตั้งแต่ – 60°C ถึง +200°C
- POLYAMAID PA11 ( RILSAN PA11)– วัสดุสำหรับสายลมที่ทำงานที่อุณหภูมิตั้งแต่ -40°C ถึง +80°C
- POLYAMAID PA12– วัสดุสำหรับท่อลมที่ทำงานที่อุณหภูมิตั้งแต่ -40°C ถึง +80°C
เมื่อทราบอุณหภูมิที่จุดใช้งานของท่อลมแล้ว เราสามารถกำหนดได้ว่าแรงดันใช้งานจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าใดและจะใช้งานได้นานเท่าใด ฉะนั้นก่อนที่ผู้อ่านจะเลือกซื้อท่อลม แอดมินแนะนำให้ผู้อ่านตรวจสอบถึงข้อมูลเหล่านี้ก่อนนะคะ เพื่อเลือกท่อลมให้เหมาะสมกับการใช้งาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
- การเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐาน
- 4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
1.สภาพแวดล้อมในการทำงานของระบบนิวเมติกส์
ตัวอย่างประเภทของวัสดุที่ใช้ในการผลิตท่อลมสำหรับต้านทานอิทธิพลภายนอก ได้แก่
- โพลียูรีเทน (Polyurethane) – เป็นสายลมมีลักษณะอ่อน ความยืดหยุ่นสูงมากกว่าพลาสติกชนิดอื่น สายหักงอแล้วสามารถกลับคืนสภาพเดิมได้ การเข้าโค้งในพื้นที่แคบได้ดี
- โพลิเอทิลีน (Polyethylene) – เป็นสายที่มีความสามารถ ทนทานต่อสารกัดกร่อนและทนต่อจุลินทรีย์และเชื้อรา รวมทั้งเคมีบางชนิดได้ดี และราคาค่อนข้างถูก
- เทฟลอน (PTFE) – เป็นสายชนิดที่ทนต่อสารเคมีได้หลากหลาย และใช้ในส่วนอุตสาหกรรมอาหารได้ เพราะเป็นสายชนิด Food grade และทนความร้อนได้สูงถึง 200 °C
- Polyamide PA11( RILSAN PA11) – สามารถทนทานต่อสารเคมีได้บางชนิด มีความยืดหยุ่น ทนแรงดันได้ค่อนข้างสูง ความพิเศษของสายชนิดนี้คือ ผลิตจากสารสกัดน้ำมันละหุ่ง (Ricinus communis ) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ
- Polyamide PA12 – สามารถทนทานต่อสารเคมีได้บางชนิด มีความยืดหยุ่น ทนแรงดันได้ค่อนข้างสูง แต่ยังน้อยกว่า PA11 โดยสายชนิดนี้จะผลิตมาจากระบบปิโตรเลียม
สายยังมีความหลากหลายแบบ หลายชนิด แยกย่อยและผสมกันหลายรูปแบบ เช่น สายทนสะเก็ดไฟ ซึ่งมีทั้งแบบ 2 ชั้นหรือแบบสามชั้น สายแบบอลูมิเนียม สายแบบมัลติทั้งหลาย
- การไหลของอากาศในท่อลม
หากผู้อ่านเลือกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อลมสำหรับการไหลไปยังส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบนิวเมติกส์ไม่ถูกต้อง ต้นทุนที่ไม่จำเป็นอาจเกิดขึ้นได้
การเลือกใช้ชนิดสายลม จะต้องคำนึงถึง แรงดันที่ใช้งาน ขนาดของสายลม การเข้าในพื้นที่คับแคบมากน้อยแค่ไหน พื้นที่ ที่ผ่านมีสารเคมีชนิดไหน มีความร้อนมากน้อยแค่ไหน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการการเลือกท่อลมสำหรับระบบนิวเมติกส์ หวังว่าผู้อ่านจะสามารถนำเอาความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้นะคะ ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวนิวเมติกส์แบบไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกลมนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ Thai-A เราเป็นโรงงานผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี เรายินดีรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ และรับผลิตกระบอกลมนิวเมติกส์ตามสั่ง
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand
มารู้จักข้อต่อลม(Fitting)กันเถอะ
มารู้จักข้อต่อลม(FITTING)กันเถอะ
ฟิตติ้งลม Fitting คืออะไร ? ฟิตติ้งหรือข้อต่อลม คือ ข้อต่อสำหรับเสียบสายลม ที่ใช้กับระบบนิวเมติกส์โดยมีหน้าที่เป็นตัวกลางการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์นิวเมติกส์กับสายท่อลม หรือเชื่อมต่อระหว่างสายท่อลมด้วยกันเป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่สำคัญเช่นกันในระบบนิวเมติกส์
ในปัจจุบันข้อต่อลม หรือ Fittings เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ที่ใช้ในระบบเครื่องจักรที่มีระบบลมนิวเมติกส์ควบคุม หรือใช้ในอุปกรณ์อื่นๆ มีระบบลมเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะทำให้งานต่อหรือถอดเปลี่ยนอุปกรณ์และสายลมเป็นงานง่าย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยขึ้น เพียงแค่กดและดึงเบาๆ ก็สามารถถอดและต่อได้อีกทั้งยังราคาไม่แพง จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การควบคุมระบบนิวเมติกส์แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?
- การเตรียมลมอัดในระบบนิวเมติกส์ขั้นพื้นฐาน
- 4 ประเภทหลักของกระบอกลมนิวเมติกส์
ข้อต่อลม หรือ Fitting มีแบบใดบ้าง ?
โดยชนิดของข้อต่อลมส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. ข้อต่อลมแบบพลาสติก จะเป็นข้อต่อลมที่เป็นพลาสติกล้วน
2. ข้อต่อลมแบบโลหะ จะเป็นข้อต่อลมที่เป็นโลหะล้วน ไม่ว่าจะเป็นทองเหลือง สแตนเลส เหล็ก เป็นต้น
3. ข้อต่อลมแบบผสม จะเป็นข้อต่อลมที่ด้านนึงเป็นพลาสติก อีกด้านเป็นโลหะ ออกแบบมาเพื่อใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์นิวเมติกส์กับสายลมได้หลากหลายขึ้น
เลือกข้อต่อลมแบบไหนดี ?
- ทนแรงดันได้เหมาะสมข้อต่อลม หรือ Fittings ที่ดี แน่นอนต้องทนแรงดันในโรงงาน หรือหน้างานได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว แรงดันที่ใช้โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 0-12 Bar ดังนั้นคุณสมบัติการทนแรงดัน ไม่ควรน้อยกว่า 5 Bar นั่นเอง และควรมีการป้องกันแรงดันกระชากไม่น้อยกว่า 10 Bar เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอุปกรณ์เสียหาย วัสดุที่ใช้ทำข้อต่อลม หรือ Fittings วัสดุที่ใช้ทำ ข้อต่อลม หรือ Fittings ก็สำคัญไม่แพ้กันกับการทนแรงดัน เพราะหากใช้วัสดุเกรดไม่ดี คุณสมบัติไม่เหมาะสม ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุตามมา หากมีการรั่วขึ้นมา จะทำให้สิ้นเปลืองใช่เหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าในเครื่องปั้มลมหรือ ปั้มลมทำงานหนักเกิดการสึกเหรอเร็วกว่าปกติ ดังนั้นวัสดุที่ที่นำมาผลิตจึงมีความสำคัญมากพอสมควร วัสดุที่ใช้ทำข้อต่อลมส่วนใหญ่ก็คือ PVC, PTFE, ทองเหลือง, สเตนเลส
- สามารถล็อคแน่นและปลดล็อคง่าย ข้อต่อลม หรือ Fittings ที่ดีนั้น เมื่อต้องใช้ต่อสายลม ต้องต่อได้ง่าย และเขี้ยวล็อคต้องล็อคแน่น ไม่รูด และเมื่อต้องการถอดสายลมก็ถอดได้ง่าย กดปลออดล็อคตัวล็อคได้ง่าย
3. เกลียวต้องได้มาตรฐาน ขันได้แน่น เกลียวของข้อต่อลม หรือ Fittings ต้องได้มาตรฐานขันกับเกลียวมาตรฐานทั่วไปได้ และต้องแน่น ไม่รั่วซึม ซึ่งเกลียวทั่วไปที่นิยมใช้โดยส่วนใหญ่ จะมี M5 , M6 , 1/8″ , 1/4″ , 3/8″ , 1/2″ ,3/4”,1”
สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์ ไม่ว่าจะเป็น กระบอกสูบนิวเมติกส์ วาล์วนิวเมติกส์ และปั๊มลมนิวเมติกส์ เป็นต้น Thai-A เราคือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบนิวเมติกส์มายาวนานกว่า 50 ปี และเรามีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับระบบนิวเมติกส์อีกด้วย
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @pneumaxthailand