หลายภาคส่วนเร่งแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ลดฝุ่นละอองในอากาศ
หลายภาคส่วนเร่งแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ลดฝุ่นละอองในอากาศ จากการสำรวจปริมาณอ้อยไฟไหม้ เมื่อเปรียบเทียบปริมาณอ้อยไฟไหม้ฤดูการผลิตปี 2563/2564 มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงถึงร้อยละ 4 โดยอ้อยไฟไหม้ของฤดูการผลิตปี 2563/2564 มีปริมาณ 37,357,786 ตัน คิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ส่วนอ้อยไฟไหม้ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 มีปริมาณ 34,628,902 ตัน คิดเป็นร้อยละ 56 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้
ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานรัฐ ร่วมกับสมาคมชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาล โรงงานการเกษตร และชาวไร่อ้อยทั่วไทยได้ร่วมมือรณรงค์ไม่ให้เก็บเกี่ยวอ้อยไฟไหม้ และช่วยให้ความรู้กับการเก็บเกี่ยวอ้อยสด ช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจกับเกษตรชาวไร่อ้อย เรื่องมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ โทษของฝุ่นละออง PM 2.5 การตัดอ้อยเข้าส่าโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรชาวไร่อ้อยจำนวนมาก เพื่อร่วมกันแก้ไขฝุ่นละอองในอากาศ
ขอบคุณข้อมูลจาก : news.thaipbs.or.th
พวกเรา Thai-A เราจึงอยากให้ชาวไร่อ้อยทุกท่านได้ตะหนักถึงการตัดอ้อยสดไม่ว่าจะใช้ทรัพยากรณ์คนหรือเลือกใช้รถตัดอ้อยก็เห็นสมควรทั้งสิ้น การเลือกใช้รถตัดอ้อยฝีมือคนไทยทำแน่นอนว่าราคาถูกลงแต่คุณภาพจัดเต็มเพราะเราฟังเสียงจากชาวไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดอ้อยให้ดียิ่งขึ้น
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย MAX รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช้รถตัดอ้อย แต่ใช้การเผาก่อนเก็บเกี่ยวจะเกิดอะไรขึ้น ?
ไม่ใช้รถตัดอ้อย แต่ใช้การเผาก่อนเก็บเกี่ยวจะเกิดอะไรขึ้น ?
การเผาใบอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตัดอ้อย ประกอบกับคนงานตัดอ้อยต้องการที่จะได้ค่าแรงตัดอ้อยมากขึ้นเนื่องจากการตัดอ้อยไฟไหม้ได้มากกว่าตัดอ้อยสด แต่การตัดอ้อยไฟไหม้ก่อให้เกิดการสูญเสียน้ำหนักและคุณภาพความหวาน
ซึ่งการตัดอ้อยแบบไม่ใช้รถตัดอ้อย แต่เลือกการตัดอ้อยไฟไหม้จะเกิดอะไรขึ้น ?
- ทำลายอินทรียวัตถุในดินลดลง 5 – 10 % ความหนาแน่นของดินเพื่อมมากขึ้น เป็นผลทำให้ดินแน่นทึบ ระบายน้ำได้ไม่ดี ดินไม่อุ้มน้ำ
- ไม่มีเศษซากอ้อยคลุมดิน เป็นเหตุทำให้วัชพืชขึ้นมากและสูญเสียความชื้นในดิน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของการดูแลรักษาอ้อยตอเพิ่มขึ้น 500-800 บาท/ไร่
- ประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลทรายลดลง น้ำอ้อยจากอ้อยไฟไหม้ทำใสได้ยาก การเคี่ยวตกผลึก ทำได้ช้า ผลึกเป็นรูปเข็ม หนืด ไม่เป็นผลึกนำตาล ประสิทธิภาพการเคี่ยวลดลง
- ทำให้มีหนอนกอลาย และหนอนกอสีขาวเข้าทำลายอ้อยตอมากกว่ามีใบคลุม 40%
- ทำลายสิ่งแวดล้อม
- อาจลุกลามไปไหม้แปลงพันธุ์อ้อยและบ้านเรือน
แนวทางการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้
- เน้นการใช้รถตัดอ้อยสดทดแทนการใช้แรงงานคนตัดอ้อย ควรมีการเลือกใช้รถตัดอ้อยให้มีความหลากหลาย เพื่อที่เกษตรกรจะได้เลือกรถตัดอ้อยให้เหมาะกับไร่อ้อยที่มีขนาดของรูปไร่ รูปร่างแปลก ระยะปลูก ระหว่างแถวที่แตกต่างกัน ในส่วนของวิชากรมการเกษตรได้มีการวิจัยและพัฒนาการผลิตรถตัดอ้อยสดชนิดตัดเป็นลำท่อน เน้นรถตัดอ้อยที่มีระบบการทำงานไม่ซับซ้อน ซ่อมแซมง่าย อะไหล่มีวางขายที่ไทยโดยไม่ต้องรออะไหล่นำเข้า ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการแนะนำรถตัดอ้อยไทยที่สามารถใช้ช่างซ่อมบำรุงรถตัดในพื้นที่ได้ และเหมาะกับชาวไร่อ้อยที่มีการใช้รถคีบอ้อย มีราคาที่เหมาะสมเกษตรกรไทยสามารถซื้อเองได้ นอกจากนี้ยังมีรถตัดอ้อยสดฝีมือคนไทยหลายบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดผลิตรถตัดอ้อยในราคาที่ถูกกว่ารถตัดอ้อยนำเข้า
- เพื่อให้เกิดแรงจูงใจให้เกษตรตัดอ้อยสด ควรกำหนดราคาอ้อยตัดสดสูงกว่าอ้อยไฟไหม้ให้มากกว่าปัจจุบันมีการตัดราคาอ้อยไฟไหม้เพียงตันละ 20 บาท
- ปรับปรุงพันธุ์อ้อยให้เป็นพันธุ์ทิ้งใบ และมีทรงกอตั้งตรง เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้แรงงานคนตัดอ้อยสด
- ชาวไร่ที่ไม่สามารถใช้รถตัดอ้อย ควรรณรงค์ให้ชาวไร่อ้อยมีการสางใบอ้อยแห้งตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม เพื่อลดการล้มของอ้อยสดได้เร็วขึ้น ใบอ้อยที่คลุมดินช่วยรักษาความชื้นให้กับดินทำให้อ้อยยังเจริญเติบโตถึงแม้ว่าจะหมดฤดูฝน และได้มีการเกษตรได้ดำเนินการวิจัยการสางใบอ้อยและประดิษฐ์มีดสางใบและเครื่องสางใบที่ช่วยให้การสางใบอ้อยทำได้รวดเร็วประหยัดแรงงาน
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย MAX รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
รถตัดอ้อยขนาดเล็ก ฝีมือไทยทำนำกำไรสู่ชาวไร่อ้อย
รถตัดอ้อยขนาดเล็ก ฝีมือไทยทำนำกำไรสู่ชาวไร่อ้อย
กว่าจะได้อ้อยแต่ละตันทำเอาชาวไร่อ้อยลมจับ ครั้นจะให้ตัดอ้อยไฟไหม้ก็ถูกหักกำไร แต่จะให้ตันอ้อยสดแรงงานก็ขาด แบบนี้แย่แน่..
แต่วันนี้ Thai-A มองเห็นถึงความจำเป็นในการตัดอ้อยของชาวไร่อ้อยทุกคนจึงได้ออกแบบและผลิตรถตัดอ้อยคันเล็กแต่คุณภาพไม่เล็ก ฝีมือไทยประดิษฐ์ที่มองเห็นโครงสร้างไร่อ้อยไทย และออกแบบรถตัดอ้อยเพื่อการตัดอ้อยพื้นที่ดินของไทยได้อย่างตรงจุด หมดกังวลเรื่องดินไม่เรียบ รถโคลงเคลงขนะตัดอ้อย ลดปัญหาตัวถังเบี้ยว แตกร้าว ยากต่อการซ่อมแซมและหาอะไหล่ให้ตรงรุ่น
ข้อดีของการใช้รถตัดอ้อย
- การใช้รถตัดอ้อยช่วยลดปัญหาด้านแรงงานคน
- การใช้รถตัดอ้อยนั้นปริมาณน้ำตาลในอ้อย มากกว่าการตัดอ้อยโดยการเผา
- ไม่สร้างมลพิษทางอากาศ
- ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
พวกเรา Thai-A เราจึงอยากให้ชาวไร่อ้อยทุกท่านได้ตะหนักถึงการตัดอ้อยสดไม่ว่าจะใช้ทรัพยากรณ์คนหรือเลือกใช้รถตัดอ้อยก็เห็นสมควรทั้งสิ้น การเลือกใช้รถตัดอ้อยฝีมือคนไทยทำแน่นอนว่าราคาถูกลงแต่คุณภาพจัดเต็มเพราะเราฟังเสียงจากชาวไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดอ้อยให้ดียิ่งขึ้น
รถตัดอ้อยรุ่น Max Cane Harvester 360 (MH360) ขนาด 360 แรงม้า
รถตัดอ้อยเป็นเครื่องมือเก็บเกี่ยวอ้อยซึ่งใช้ในช่วงฤดูกาล เก็บเกี่ยวอ้อย เข้าสู่โรงงานน้ำตาล ซึ่งรถตัดอ้อยคุณภาพดีของเรามาพร้อมชุดอุปกรณ์รวมสำหรับการเก็บเกี่ยวอ้อยให้กับชาวไร่และผู้รับเหมางาน
เครื่องยนต์รถตัดอ้อย MAX MH360
- กำลังแรงม้า : 264 KW (360 HP) 360 แรงม้า
- รอบทำงานสูงสุด : 2200 rpm 2200 รอบต่อนาที
- น้ำมันเชื้อเพลิง : ดีเซล
- ระบบเผาไหม้เชื้อเพลิง : แบบ INLINE PUMP ควบคุมหัวฉีดด้วยเพลาราวลิ้น
- ระบบอัดอากาศ : เทอร์โบชาร์จ
การทำงานของเครื่องยนต์
รถตัดอ้อย MAX MH360 จาก Thai-A จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีระบบการใช้งานดังต่อไปนี้
- ป้อนและตัดอ้อยเป็นท่อนได้ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
- สายพานฟันเฟืองที่ออกแบบมารองรับการตัดอ้อยลดการสูญเสียอ้อยล่วงอ้อยหล่นตามพื้นไร่ได้
- ตัวรถตัดอ้อยจะลดการสูญเสียจากการตัดตอสั้นและยาวจากการใช้คนตัด
- ความคล่องตัวของรถตัดอ้อยในการตัดอ้อยที่รวดเร็วเทียบกับการใช้แรงงานคนหลายเท่าตัว
- รถตัดอ้อยสามารถตัดต้นอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำ ตอไม่เสียหาย
มาตรฐานของรถตัดอ้อยสำหรับการตัดอ้อย
กำลังขับเคลื่อน
- ปั๊มขับเคลื่อนคู่
- ความเร็วที่ใช้วิ่งบนเส้นทางเดินรถ 1 ถึง 20 กม./ช.ม.
ชุดตัดยอดอ้อย
- ควบคุมการยกระดับความสูง-ต่ำได้
- ควบคุมการปั่นยอดใบอ้อยออกข้าง ซ้าย-ขวาได้
ชุดเกลียวเก็บอ้อย
- ชุดเกลียวเก็บอ้อยซ้าย-ขวาข้างละ 2 ชุด
- ควบคุมการยกระดับความสูง-ต่ำได้
ระบบไฟฟ้า
- ระบบไฟฟ้าแบตเตอรี่ 24 โวล์ท
- ระบบควบคุมการทำงานเดินเครื่องรอบเบาแบบอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการทำงานด้วยสวิตซ์ควบคุม
- ชุดไฟหน้าแอลอีดีให้ความสว่างมากและประหยัดพลังงาน และทนทาน
- แผงฟิวส์และเซอร์กิตเบรกเกอร์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ลดอุบัติเหตุไฟไหม้ตัวรถ
- ชุดไฟสปอตไลท์แอลอีดีเสริมข้าง ส่องสว่างรอบตัวรถและประหยัดพลังงาน
1.ก่อนการตัดอ้อย
ตรวจเช็กสภาพความพร้อมของตัวเครื่องรถตัดอ้อยทุกครั้งก่อนใช้งาน
ควรทำการตรวจเช็กหม้อน้ำก่อนเพื่อให้ตัวเครื่องสร้างแรงดันน้ำเข้าสู่ตัวเครื่องยนต์ และพาความร้อนออกจากตัวเครื่องยนต์รถตัดอ้อยได้ ต่อมาคือการตรวจเช็กน้ำมันเครื่องซึ่งจะอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และห้องคนขับ หลังจากนั้น ควรเช็กในส่วนของน้ำมันไฮดรอลิคไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์โดยสามารถสังเกตได้จากเครื่องวัดน้ำที่ติดอยู่ด้านข้างรถตัดอ้อยได้ค่ะ
2.ภายในห้องควบคุม
ภายในห้องควบคุมรถตัดอ้อยนั้น จะมีด้วยกันอยู่ 6 แกนโยกคอนโทรล และ 11 ปุ่มควบคุมด้วยกันค่ะ เน้นระบบควบคุมแบบมือโยก (Manauld) เพื่อง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุงรักษาในอนาคต
- แกนโยกคอนโทรลที่ 1 สำหรับยกตัว
- แกนโยกคอนโทรลที่ 2 สำหรับหน้ารถทางด้านซ้าย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 3 สำหรับหน้ารถทางด้านซ้าย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 4 สำหรับการตัดยอดอ้อย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 5 สำหรับยกหางรถตัดอ้อย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 6 สำหรับใบโบกอ้อย หรือตัดแต่งอ้อย
11 ปุ่มควบคุมทำหน้าที่ดังนี้
- ปุ่มที่ 1 สำหรับสับท่อนอ้อย
- ปุ่มที่ 2 สำหรับตัดโคนอ้อย
- ปุ่มที่ 3 ปุ่มควบคุมปุ่ม 2 ปุ่มแรก
- ปุ่มที่ 4 สำหรับควบคุมสายพาน
- ปุ่มที่ 5 สำหรับพัดลมตัวที่ 1
- ปุ่มที่ 6 สำหรับพัดลมตัวที่ 2
- ปุ่มที่ 7 สำหรับควบคุมใบมีดตัดยอด
- ปุ่มที่ 8 และ 9 สำหรับควบคุมไฟชุดหน้า
- ปุ่มที่ 10 และ 11 สำหรับควบคุมไฟชุดหลัง
นอกจากนั้นจะเป็นในส่วนของปุ่มสตาร์ท ปุ่มตัดดับ ปุ่มสำหรับระบบไฟ และปุ่ม Saver พร้อมชุดเสียบปลั๊กไฟต่าง ๆ ได้ค่ะ ส่วนด้านข้างแถบคอนโทรลจะมีอีก 1 แกนคอนโทรล สำหรับเร่งพัดลมใหญ่ เป็นต้นค่ะ
มีหน้าปัดให้ตรวจสอบด้วยกัน 6 ตัวค่ะ ตรวจสอบรอบเครื่องยนต์ แรงดันน้ำมัน อุณหภูมิไฮดรอลิค อุณภูมิเครื่องยนต์ ตรวจสอบน้ำมันและการชาร์จไฟชาร์จ ตามลำดับ พร้อมระบบแอร์และกล้องวงจรปิดภายในห้องควบคุมด้วยค่ะ
3.ตัวเปิด-ปิดสะพานและการเดินเครื่อง
ในส่วนของการเดินเครื่องนั้นจะขึ้นอยู่กับคันโยกตัวใหญ่ข้างพวงมาลัย ซึ่งสามารถควบคุมให้ตัวรถตัดอ้อยเดินหน้าและถอยหลังได้ พร้อมกับปุ่มเปิด-ปิดสะพานของตัวเครื่องที่จะอยู่บริเวณหัวเกียร์
จากคำแนะนำของผู้ใช้งานรถตัดอ้อย ผู้ใช้งานควรเดินตรวจสภาพโดยรอบของรถตัดอ้อยทุกครั้ง และควรบีบแตรกันไว้ทุกครั้งก่อนการขับในช่วงหรือบริเวณที่มีผู้คนอยู่โดยรอบ เพื่อให้ชาวเกษตรกรโดยรอบสามารถหลบทางการทำงานของรถตัดอ้อยได้ทันนั้นเองค่ะ
5.ช่วงสตาร์ทรถ
ควรเปิดระบบต่าง ๆ ไว้ทั้งคัน เพื่อให้ตัวน้ำมันสามารถวิ่งและทำงานได้ดีทั่วทั้งคัน ซึ่งจะเป็นผลดีในการเร่งรอบของรถตัดอ้อยค่ะ โดยผู้ใช้งานควรเปิดระบบต่าง ๆ ทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 5 นาที อยู่ที่ 1,500 ต่อรอบ แต่ในส่วนของการทำงานจริงนั้น ผู้ขับควรเร่งรอบไว้ที่อยู่ที่ 1800-2000 รอบต่อนาที
6.การวางระดับใบมีดตัดโคนอ้อย
7.การใช้งานรถตัดอ้อยแบบประหยัดน้ำมัน
ช่วงการเลี้ยวและการกลับหัวแปรง ควรเปลี่ยนความเร็วต่อรอบจาก การใช้งานปกติให้เหลือเพียงแค่ 1,500 เพื่อการประหยัดนำมันค่ะ
8.ช่วงการวิ่งข้ามร่องอ้อยและการปีนเนิน
ควรตีโค้งให้กว้างเพื่อให้ตัวล้อพ้นจากหว่างของร่องอ้อย
9.หลังการใช้งานรถตัดอ้อย
ก่อนดับตัวเครื่องผู้ขับควรตรวจเช็กอุณหภูมิของตัวเครื่องยนต์ ควรทำการผ่อนรอบเครื่องให้อยู่ที่ 700 – 1,000 และควรรอเวลาเพื่อให้ตัวอุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นลงอยู่ที่ 80-90 ถึงจะทำการดับเครื่องได้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เรื่องน่ารู้จาก THAI-A ส่วนประกอบของรถตัดอ้อย
- รถตัดอ้อย 360 แรงม้า MAX CANE HARVESTER ( รุ่น MH360 ) เร็ว แรง เสร็จทันใจ เกษตรกรชาวไร่อ้อย
- THAI-A จำหน่ายอะไหล่รถตัดอ้อย
การใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพ
ปัจจัยด้านสภาพพื้นที่ แปลงปลูกอ้อยที่เอื้ออำนวยต่อการใช้รถตัดมีความสำคัญมาก จากการศึกษาเรื่องต้นทุนของการเก็บเกี่ยวอ้อย และการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุนในรถตัดอ้อย เพื่อรับจ้างเชิงพาณิชย์พบว่าปัจจัยที่ เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยมีดังนี้
- สภาพพื้นที่ที่เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยในการเก็บเกี่ยวควรจะเป็นพื้นที่ราบ หรืออาจจะเป็นพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3% มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ควรมีก้อนหิน ตอไม้ และต้นไม้ในแปลงอ้อย เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของรถตัดอ้อยในสภาพพื้นที่ที่มีความลาดเอียงสูงๆ หรือไม่มีการระบายน้ำที่ดีจะทำให้รถตัดอ้อยและรถบรรทุกอ้อยเกิดพลิกคว่ำหรือติดหล่มในขณะทำงาน และการที่มีก้อนหิน ตอไม้ ต้นไม้ในแปลงอ้อยจะทำให้ใบมีดตัดโคนอ้อยหรือชุดใบมีดสับท่อนของรถตัดอ้อยเกิดการเสียหายได้
- ขนาดแปลงอ้อย ขนาดแปลงอ้อยที่เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยควรเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดของพื้นที่ควรมากกว่า 20 ไร่ขึ้นไป มีความยาวของแถวอ้อยหรือแนวปลูกอ้อยยาวกว่า 100 เมตรขึ้นไป หรือยิ่งยาวมากเท่าไรยิ่งดี เนื่องจากรถตัดอ้อยและรถบรรทุกสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกลับรถเพื่อขึ้นแถวใหม่บ่อย ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองค่าน้ำมันมากขึ้น
- ถนนหัวแปลงและท้ายแปลงอ้อยควรมีความกว้างของถนนมากกว่า 3 เมตร เพื่อความสะดวกในการกลับรถ สำหรับแปลงอ้อยที่ไม่มีถนนหัวแปลงและท้ายแปลง จำเป็นต้องให้รถตัดอ้อยทำการเปิดหัวแปลงและท้ายแปลงโดยการตัดอ้อยในแปลงเพื่อให้สามารถกลับหัวรถได้ แต่จะส่งผลให้คือ ตออ้อยบริเวณหัวแปลงและท้ายแปลงถูกรถตัดอ้อยและรถบรรทุกทับเสียหาย อีกทั้งการกลับหัวรถภายในแปลงอ้อยอาจส่งผลต่อความเสียหายของรถตัดอ้อยและรถบรรทุกได้ เนื่องจากต้องข้ามแถวอ้อยที่มีความสูงเกินไป อาจก่อให้เกิดความไม่สมดุลและอาจพลิกคว่ำได้
- ถนนข้างแปลงอ้อย เนื่องจากรถตัดอ้อยต้องทำงานควบคู่ไปกับรถบรรทุก จึงควรมีพื้นที่ขนาด 3 เมตรขึ้นไปบริเวณข้างใดข้างหนึ่งสำหรับรถตัดอ้อยและรถบรรทุก เพื่อให้รถทั้ง 2 สามารถทำงานควบคู่กันไปได้ แต่หากไม่มีถนนข้างแปลงรถตัดอ้อย จะต้องตัดอ้อยในแถวแรกหรือร่องแรกแล้วเก็บไว้ในกระพ้อเก็บอ้อย จากนั้นรถตัดอ้อยจะต้องถอยกลับมาเพื่อลำเลียงอ้อยใส่รถบรรทุกที่จอดอยู่บริเวณนอกแปลง ส่งผลให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองน้ำมัน
- ระยะห่างระหว่างแถวที่เหมาะสมในการใช้รถตัดอ้อยคุณภาพดีควรมีระยะประมาณ 1.5 – 4 เมตร หากระยะห่างระหว่างแถวอ้อยน้อยกว่า 1.4 เมตรจะส่งผลให้อ้อยในแถวถัดไปเกิดความเสียหายจากรถตัดอ้อยแต่ในขณะเดียวกันหากมีระยะห่างระหว่างแถวอ้อยมากกว่า 1.5 เมตรจะ ส่งผลให้สูญเสียพื้นที่ในการปลูกอ้อยโดยเปล่าประโยชน์
- สันร่องหรือสันแถวอ้อยที่เหมาะสมในการใช้รถตัดอ้อยควรมีลักษณะโค้งมน บริเวณยอดสันแบนราบเล็กน้อย มีความสูงของสันร่องประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยสามารถที่จะตัดอ้อยได้ชิดพื้นดินพอดีและส่งผลให้ตออ้อยมีความสม่ำเสมอกับพื้นดิน แต่ในกรณีที่สันร่องมีความสูงมากกว่า 15 เซนติเมตร ส่งผลให้รถตัดอ้อยยกช่องล้อสูงขึ้นและใบมีดตัดโคนอ้อยสัมผัสดินมากเกินไปทำให้ใบมีดตัดโคนอ้อยเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากสันร่องมีความสูงต่ำกว่า 15 เซนติเมตรหรือมีสันร่องในระดับเดียวกันกับพื้นดิน ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยจะไม่สามารถตัดอ้อยได้หมดและหากสันร่องอยู่ต่ำกว่า พื้นดินใบมีดตัดโคนของรถตัดอ้อยจะไม่สามารถตัดอ้อยได้ถึงโคนอ้อย เป็นผลให้ตออ้อยเหลือยาวเกินไป
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@teacgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ภาพรีวิวรถตัดอ้อย Max Cane Harvester 360 (MH360) ขนาด 360 แรงม้า
เกษตรปลอดเผา เราปลอดฝุ่นด้วยรถตัดอ้อย
เกษตรปลอดเผา เราปลอดฝุ่นด้วยรถตัดอ้อย ที่ผ่านมาหลายฝ่ายพยายามหาวิธีลดการเผาอ้อย เช่นการปรับชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยไฟไหม้ต้นละ 30 บาท เพื่อนำเงินไปสนับสนุนชาวไร่อ้อยสด นอกจากนี้การเผายังทำให้ดินสูญเสียธาตุอาหารจำพวกไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ก่อให้เกิดปัญหาดินเสื่อมคุณภาพ โครงสร้างของดินถูกทำลาย อินทรียวัตถุลดลง ดินอัดแน่น ไม่อุ้มน้ำ น้ำซึมลงยาก มีวัชพืชขึ้นมากกว่าแปลงที่ไม่เผา ทำให้ต้องใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชมากขึ้น เกิดการตกค้างของสารพิษในดินสูงขึ้น ส่งผลต่อพืชที่ปลูกไม่เจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ไม่เต็มที่
แนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหานี้คือการใช้รถตัดอ้อย แต่ต้นทุนก็น่าตกใจ เพราะรถตัดอ้อยคุณภาพสูงที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีราคากว่า 10 ล้านบาท แต่ปัจจุบันนี้กลุ่มผู้สนับสนุนการลดการเผาอ้อยได้คิดค้นและผลิตรถตัดอ้อยไทย ประดิษฐ์โดยคนไทย ได้คิดค้นและปรับปรุงการทำงานของรถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการตัดอ้อยที่คุ้มค่าหมดปัญหาอ้อยไฟไหม้นั่นเอง
ซึ่งรถตัดอ้อย MAX ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับชาวไร่อ้อย เราผลิตรถตัดอ้อยไทยประดิษฐ์ที่ต้องการช่วยเกษตรกรไร่อ้อยด้วยกลไกลของการใช้ชุดเก็บเกี่ยวที่ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฮดรอลิคนำเข้า ซ่อมบำรุงง่าย ในฉบับรถตัดอ้อยไทย
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย MAX รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
บทความที่เกี่ยวข้อง
รถตัดอ้อยส่งทั่วไทย คืนกำไรให้ชาวไร่อ้อย
รถตัดอ้อยส่งทั่วไทย คืนกำไรให้ชาวไร่อ้อย
เป็นเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ใช้ในการเก็บเกี่ยวอ้อย ทั้งยังช่วยลดปัญหาทางด้านฝุ่นควันและแรงงานได้อีกด้วย โดยวันนี้แอดมินได้นำภาพบรรยากาศในการจัดส่งรถตัดอ้อยรุ่นขายดีจัดส่งไปยังพี่น้องชาวโคราชได้ใช้งานกัน อีกทั้งยังมีบริการรับซ่อมรถตัดอ้อยทั่วไทย ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด จังหวัดไหน Thai-A ก็ยินดีให้บริการจัดส่งรถตัดอ้อยถึงมือท่านอย่างแน่นอน
โดยรถตัดอ้อยที่จัดส่งวันนี้จะเป็นรถตัดอ้อย MAX MH360 ขนาด 360 แรงม้า มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีระบบการใช้งานที่โดดเด่นดังต่อไปนี้
- ป้อนและตัดอ้อยเป็นท่อนได้ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
- สายพานฟันเฟืองที่ออกแบบมารองรับการตัดอ้อย
- ตัวรถตัดอ้อยจะลดการบดอัดหน้าดินได้เป็นอย่างดี
- ความคล่องตัวของรถตัดอ้อยในการตัดอ้อยที่รวดเร็ว
- ระบบหมุนกลับทิศทางอัตโนมัติพร้อมการควบคุมจากผู้ขับ
- รถตัดอ้อยสามารถตัดต้นอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำ
ก่อนนำส่งรถตัดอ้อยให้กับชาวไร่อ้อย Thai-A ได้มีการจัดการวางแผนและผ่านการตรวจเช็กรถตัดอ้อยก่อนจัดส่งทุกคันเพื่อให้ถึงมือชาวไร่อ้อยอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ภาพบรรยากาศก่อนออกเดินทางจัดส่งรถตัดอ้อยไปยังลูกค้า ปลายทางที่จังหวัดโคราช
ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดไกลแค่ไหน Thai-A ก็ยินดีจัดส่งให้ถึงมือท่านเสมอ เราดีใจที่ได้ให้บริการลูกค้าทุกท่านตั้งแต่ตัวสินค้า การจัดส่ง และการบริการหลังการขาย พร้อมทั้งรับซ่อมรถตัดอ้อยทั่วไทย
บริการซ่อมรถตัดอ้อย นอกสถานที่
บริการซ่อมรถตัดอ้อยตลอด 24 ชัวโมง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้นพร้อมทั้งรับซ่อมรถตัดอ้อย ซ่อมรถคีบไม้ คีบอ้อย และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ปรับแปลงอ้อยก่อนใช้รถตัดอ้อยแบบนี้ตัดได้ประสิทธิภาพแน่นอน
ปรับแปลงอ้อยก่อนใช้รถตัดอ้อยแบบนี้ตัดได้ประสิทธิภาพแน่นอน หากอยากใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสภาพพื้นที่ของแปลงอ้อย เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการใช้รถตัดอ้อย จากการศึกษาเรื่องต้นทุนของการเก็บเกี่ยวอ้อยและการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุนซื้อรถตัดอ้อยนั้นพบว่ามีปัจจัยดังนี้
- สภาพพื้นที่ ที่เหมาะสมกับรถตัดอ้อยในการเก็บเกี่ยวควรจะเป็นพื้นที่ราบ หรืออาจจะเป็นพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3% จะต้องมีการระบายน้ำที่ดี และไม่ควรมีก้อนหิน ตอไม้ในแปลงอ้อย เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้การทำงานของรถตัดอ้อยไม่ได้ประสิทธิภาพมากพอ อย่างเช่น ใช้รถตัดอ้อยทำงานในที่ลาดเอียงสูง เกิดการพลิกคว่ำ หรือติดหล่มในขณะการทำงาน หรือการที่มีก้อนหิน ตอไม้ก็จะทำให้ใบมีดของรถตัดอ้อยเกิดความเสียหายได้
- ขนาดของแปลงอ้อยที่เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพควรเป็นแปลงอ้อยที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และควรมีขนาดของพื้นที่มากกว่า 20 ไร่ขึ้นไป มีความยาวของแถวอ้อยหรือแนวปลูกอ้อยยาวกว่า 100 เมตรขึ้นไป หรือยิ่งยาวมากเท่าไรยิ่งดี เนื่องจากรถตัดอ้อยและรถบรรทุกสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกลับรถเพื่อขึ้นแถวใหม่บ่อย ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองค่าน้ำมันมากขึ้น
- ถนนฝั่งหัวแปลงและท้ายแปลงควรมีขนาดกว้างกว่า 3 เมตร เพื่อความสะดวกในการกลับรถตัดอ้อย จำเป็นต้องให้รถตัดอ้อยทำการเปิดหัวแปลงและท้ายแปลงโดยการตัดอ้อยในแปลงเพื่อให้สามารถกลับหัวรถได้ แต่จะส่งผลให้คือ ตออ้อยบริเวณหัวแปลงและท้ายแปลงถูกรถตัดอ้อยและรถบรรทุกทับเสียหาย
- เผื่อถนนข้างแปลงอ้อย เนื่องจากรถตัดอ้อยต้องทำงานควบคู่ไปกับรถบรรทุก จึงควรมีพื้นที่ขนาด 3 เมตรขึ้นไปบริเวณข้างใดข้างหนึ่งสำหรับรถตัดอ้อยและรถบรรทุก เพื่อให้รถทั้ง 2 สามารถทำงานควบคู่กันไปได้ แต่หากไม่มีถนนข้างแปลงรถตัดอ้อย จะต้องตัดอ้อยในแถวแรกหรือร่องแรกแล้วเก็บไว้ในกระพ้อเก็บอ้อย จากนั้นรถตัดอ้อยจะต้องถอยกลับมาเพื่อลำเลียงอ้อยใส่รถบรรทุกที่จอดอยู่บริเวณนอกแปลง ส่งผลให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองน้ำมัน
- สันร่องหรือสันแถวอ้อยที่เหมาะสมในการใช้รถตัดอ้อยควรมีลักษณะโค้งมน บริเวณยอดสันแบนราบเล็กน้อย มีความสูงของสันร่องประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยสามารถที่จะตัดอ้อยได้ชิดพื้นดินพอดีและส่งผลให้ตออ้อยมีความสม่ำเสมอกับพื้นดิน แต่ในกรณีที่สันร่องมีความสูงมากกว่า 15 เซนติเมตร ส่งผลให้รถตัดอ้อยยกช่องล้อสูงขึ้นและใบมีดตัดโคนอ้อยสัมผัสดินมากเกินไปทำให้ใบมีดตัดโคนอ้อยเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากสันร่องมีความสูงต่ำกว่า 15 เซนติเมตรหรือมีสันร่องในระดับเดียวกันกับพื้นดิน ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยจะไม่สามารถตัดอ้อยได้หมดและหากสันร่องอยู่ต่ำกว่า พื้นดินใบมีดตัดโคนของรถตัดอ้อยจะไม่สามารถตัดอ้อยได้ถึงโคนอ้อย เป็นผลให้ตออ้อยเหลือยาวเกินไป
จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการเตรียมแปลงตัดอ้อยก่อนการใช้รถตัดอ้อยนั้นมีความสำคัญ หากตัดอ้อยโดยไม่ได้คำนึกถึงรูปแปลงอาจจะทำให้การตัดอ้อยของพี่น้องชาวไร่อ้อยไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควรได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปหากพี่น้องชาวไร่อ้อยเลือกใช้รถตัดอ้อยที่ถูกออกแบบมาเพื่อแปลงอ้อยไทย ปรับปรุงการทำงานให้เหมาะสมกับไร่อ้อยไทยด้วยรถตัดอ้อยไทยประดิษฐ์ MAX MH360 จาก Thai-A เราผลิตและจัดจำหน่ายรถตัดอ้อยไทยคุณภาพดี แรงม้าสูง ช่วยให้ชาวไร่อ้อยสามารถตัดอ้อยได้รวดเร็วทันใจมีความคล่องตัวของรถตัดอ้อยในการตัดอ้อยที่รวดเร็วเทียบกับการใช้แรงงานคนหลายเท่าตัว ไม่ทำให้ตอเสียหายขณะตัดสายพานฟันเฟืองที่ออกแบบมารองรับการตัดอ้อยลดการสูญเสียอ้อยล่วงอ้อยหล่นตามพื้นไร่ได้ ราคาเป็นมิตรกับชาวไร่อ้อย และมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเพิ่มคุณภาพ การแปรสภาพผลผลิตเกษตร สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถตัดอ้อย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ทำไมต้องใช้รถตัดอ้อย MAX Thai-A
ทำไมต้องใช้รถตัดอ้อย MAX Thai-A การใช้รถตัดอ้อยนั้น จะช่วยลดปัญหาทางด้านแรงงาน และเพิ่มค่าน้ำตาลในอ้อยให้สูงขึ้น เพราะการใช้รถตัดอ้อยแทนการเผานั้นไม่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ลดค่าใช้จ่ายใส่ปุ๋ยบำรุงดิน และสะดวกรวดเร็วนั่นเอง โดยวันนี้ทางแอดมินจึงขอนำเสนอรถตัดอ้อยไทยประดิษฐ์ ที่แข็งแรง ทนทาน มีคุณภาพ คุ้มค่ากับการใช้งาน โดยรถตัดอ้อยที่แอดมินจะนำเสนอในวันนี้คือ รถตัดอ้อย Thai-A MAX MH360 มีดียังไงบ้างไปชมกันเลยค่ะ
รถตัดอ้อย MAX MH360
รถตัดอ้อยแม็กส์ MAX ออกแบบและพัฒนาขึ้นมาโดยคนไทยคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะกับเกษตรกร และพื้นที่ของชาวไร่อ้อย ให้เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สูงสุด การดูแลรักษาง่ายไม่ซับซ้อน คุ้มค่า คืนทุนได้โดยเร็ว อีกทั้งมุ่งเน้นให้เกษตรกรสามารถซ่อมแซม และปรับปรุงบำรุงรักษารถตัดอ้อยด้วยตัวเองได้อีกด้วย
การทำงานของเครื่องยนต์
รถตัดอ้อย MAX มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีระบบการใช้งานดังต่อไปนี้
- ป้อนและตัดอ้อยเป็นท่อนได้ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ
- สายพานฟันเฟืองที่ออกแบบมารองรับการตัดอ้อย
- ตัวรถตัดอ้อยจะลดการบดอัดหน้าดินได้เป็นอย่างดี
- ความคล่องตัวของรถตัดอ้อยในการตัดอ้อยที่รวดเร็ว
- ระบบหมุนกลับทิศทางอัตโนมัติพร้อมการควบคุมจากผู้ขับ
- รถตัดอ้อยสามารถตัดต้นอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแม่นยำ
สำหรับการวางแผนการเก็บเกี่ยวและขนส่งอ้อยที่ดี มิตรชาวไร่ควรจัดการทรัพยากรเครื่องจักรให้เหมาะสม ดังนี้
อัตราส่วนรถตัดอ้อยต่อรถบรรทุกอ้อย
- ระยะทางขนส่งอ้อย 1-40 กม. ต้องมีรถบรรทุก 6-8 กล่อง
- ระยะทางขนส่งอ้อย 41-80 กม. ต้องมีรถบรรทุก 10 กล่อง
- ระยะทางขนส่งอ้อย 80 กม. ขึ้นไป ต้องมีรถบรรทุก 12 กล่อง
ศูนย์รวมอะไหล่ ด้านเครื่องจักรกลการเกษตร
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อยไทยประดิษฐ์ ผีมือคนไทย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
รีวิวการใช้รถตัดอ้อยไทยทำรุ่น MAXCANE HARVESTER 360 จาก Thai-A
รีวิวการใช้รถตัดอ้อยไทยทำรุ่น MAXCANE HARVESTER 360 จาก Thai-A การเก็บเกี่ยวนับเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญของการเกษตรชาวไร่อ้อย เพราะขั้นตอนที่ต้องอาศัยแรงงานคนจำนวนมาก กาลเวลาผ่านไปค่านิยมการทำงานเริ่มลดน้อยลงทำให้ชาวไร่อ้อยส่วยใหญ่หันมามองเห็นประโยชน์ของรถตัดอ้อยมากขึ้น
รถตัดอ้อยเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการเกษตรที่ทันสมัย ได้ใจเถ้าแก่ไร่อ้อยไปแบบเต็ม ๆ ด้วยความคุ้มค่า น่าลงทุนประสิทธิภาพการเก็บเกี่ยวอ้อยได้รวดเร็ว ทันใจ ลดการใช้แรงงานและลดเวลาทำงานในไร่ได้อีกด้วย วันนี้แอดมินเลยจะพามาดูรถตัดอ้อยไทยทำ ไทยประดิษฐ์ จาก Thai-A พร้อมวิธีการใช้รถตัดอ้อย MAX CANE HARVESTER กันค่ะ
1. ก่อนการตัดอ้อย
ตรวจเช็กสภาพความพร้อมของตัวเครื่องรถตัดอ้อยทุกครั้งก่อนใช้งาน
ควรทำการตรวจเช็กหม้อน้ำก่อนเพื่อให้ตัวเครื่องสร้างแรงดันน้ำเข้าสู่ตัวเครื่องยนต์ และพาความร้อนออกจากตัวเครื่องยนต์รถตัดอ้อยได้ ต่อมาคือการตรวจเช็กน้ำมันเครื่องซึ่งจะอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และห้องคนขับ หลังจากนั้น ควรเช็กในส่วนของน้ำมันไฮดรอลิคไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์โดยสามารถสังเกตได้จากเครื่องวัดน้ำที่ติดอยู่ด้านข้างรถตัดอ้อยได้ค่ะ
2. ภายในห้องควบคุม
ภายในห้องควบคุมรถตัดอ้อยนั้น จะมีด้วยกันอยู่ 6 แกนโยกคอนโทรล และ 11 ปุ่มควบคุมด้วยกันค่ะ เน้นระบบควบคุมแบบมือโยก (Manual) เพื่อง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุงรักษาในอนาคต
- แกนโยกคอนโทรลที่ 1 สำหรับยกตัว
- แกนโยกคอนโทรลที่ 2 สำหรับหน้ารถทางด้านซ้าย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 3 สำหรับหน้ารถทางด้านซ้าย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 4 สำหรับการตัดยอดอ้อย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 5 สำหรับยกหางรถตัดอ้อย
- แกนโยกคอนโทรลที่ 6 สำหรับใบโบกอ้อย หรือตัดแต่งอ้อย
11 ปุ่มควบคุมทำหน้าที่ดังนี้
- ปุ่มที่ 1 สำหรับสับท่อนอ้อย
- ปุ่มที่ 2 สำหรับตัดโคนอ้อย
- ปุ่มที่ 3 ปุ่มควบคุมปุ่ม 2 ปุ่มแรก
- ปุ่มที่ 4 สำหรับควบคุมสายพาน
- ปุ่มที่ 5 สำหรับพัดลมตัวที่ 1
- ปุ่มที่ 6 สำหรับพัดลมตัวที่ 2
- ปุ่มที่ 7 สำหรับควบคุมใบมีดตัดยอด
- ปุ่มที่ 8 และ 9 สำหรับควบคุมไฟชุดหน้า
- ปุ่มที่ 10 และ 11 สำหรับควบคุมไฟชุดหลัง
นอกจากนั้นจะเป็นในส่วนของปุ่มสตาร์ท ปุ่มตัดดับ ปุ่มสำหรับระบบไฟ และปุ่ม Saver พร้อมชุดเสียบปลั๊กไฟต่าง ๆ ได้ค่ะ ส่วนด้านข้างแถบคอนโทรลจะมีอีก 1 แกนคอนโทรล สำหรับเร่งพัดลมใหญ่ เป็นต้นค่ะ
มีหน้าปัดให้ตรวจสอบด้วยกัน 6 ตัวค่ะ ตรวจสอบรอบเครื่องยนต์ แรงดันน้ำมัน อุณหภูมิไฮดรอลิค อุณภูมิเครื่องยนต์ ตรวจสอบน้ำมันและการชาร์จไฟชาร์จ ตามลำดับ พร้อมระบบแอร์และกล้องวงจรปิดภายในห้องควบคุมด้วยค่ะ
3. ตัวเปิด-ปิดสะพานและการเดินเครื่อง
ในส่วนของการเดินเครื่องนั้นจะขึ้นอยู่กับคันโยกตัวใหญ่ข้างพวงมาลัย ซึ่งสามารถควบคุมให้ตัวรถตัดอ้อยเดินหน้าและถอยหลังได้ พร้อมกับปุ่มเปิด-ปิดสะพานของตัวเครื่องที่จะอยู่บริเวณหัวคันโยกเดินหน้าถอยหลัง
จากคำแนะนำของผู้ใช้งานรถตัดอ้อย ผู้ใช้งานควรเดินตรวจสภาพโดยรอบของรถตัดอ้อยทุกครั้ง และควรบีบแตรกันไว้ทุกครั้งก่อนการขับในช่วงหรือบริเวณที่มีผู้คนอยู่โดยรอบ เพื่อให้ชาวเกษตรกรโดยรอบสามารถหลบทางการทำงานของรถตัดอ้อยได้ทันนั้นเองค่ะ
4. ช่วงสตาร์ทรถ
ควรเปิดระบบต่าง ๆ ไว้ทั้งคัน เพื่อให้ตัวน้ำมันสามารถวิ่งและทำงานได้ดีทั่วทั้งคัน ซึ่งจะเป็นผลดีในการเร่งรอบของรถตัดอ้อยค่ะ โดยผู้ใช้งานควรเปิดระบบต่าง ๆ ทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 5 นาที อยู่ที่ 1,500 ต่อรอบ แต่ในส่วนของการทำงานจริงนั้น ผู้ขับควรเร่งรอบไว้ที่อยู่ที่ 1800-2000 รอบต่อนาที
5. การวางระดับใบมีดตัดโคนอ้อย
การวางระดับของใบมีดตัดโคนอ้อยนั้น ควรวางให้อยู่ในระดับราบและเสมอกับพื้นดินเพื่อป้องกันการเกิดตออ้อย
6. การใช้งานรถตัดอ้อยแบบประหยัดน้ำมัน
ช่วงการเลี้ยวและการกลับหัวแปรง ควรเปลี่ยนความเร็วต่อรอบจาก การใช้งานปกติให้เหลือเพียงแค่ 1,500 เพื่อการประหยัดนำมันค่ะ
7. ช่วงการวิ่งข้ามร่องอ้อยและการปีนเนิน
ควรตีโค้งให้กว้างเพื่อให้ตัวล้อพ้นจากหว่างของร่องอ้อย
8. หลังการใช้งานรถตัดอ้อย
ก่อนดับตัวเครื่องผู้ขับควรตรวจเช็กอุณหภูมิของตัวเครื่องยนต์ ควรทำการผ่อนรอบเครื่องให้อยู่ที่ 700 – 1,000 และควรรอเวลาเพื่อให้ตัวอุณหภูมิเครื่องยนต์เย็นลงอยู่ที่ 80-90 ถึงจะทำการดับเครื่องได้ค่ะ
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อยไทยประดิษฐ์ ผีมือคนไทย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมชาวไร่อ้อยถึงหันมาใช้รถตัดอ้อยแทนการเผา ?
ทำไมชาวไร่อ้อยถึงหันมาใช้รถตัดอ้อยแทนการเผา ?
การทำไร่อ้อยสมัยใหม่มิตรชาวไร่ต้องใส่ใจตั้งแต่เริ่มต้นเตรียมดินให้ดีจึงจะได้อ้อยที่งอกงาม ต้องมีองค์ความรู้พื้นฐานให้เท่าทันโลกยุค 5G ที่ทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองจากการเรียนรู้สิ่งใหม่แบบไร้ขีดจำกัดได้ทุกที่ทุกเวลา
ชาวไร่อ้อยตัดสินใจซื้อรถตัดอ้อยเพราะมองว่า “ รถตัดดีกว่าคน เร็วกว่า ใช้เวลาทำงานสั้นกว่า ทำให้มีเวลาเหลือดูแลรักษาไร่ได้ดีขึ้น ทั้งไร่ ทั้งอ้อยที่ได้ก็มีคุณภาพดีขึ้น ต่อไปถ้าใช้รถใช้เครื่องจักรแบบนี้ภาพรวมการใส่น้ำใส่ปุ๋ยจะไวขึ้นอีก รถคันนึงทำงานได้เท่ากับคนงาน 100 คน แล้วยังได้อ้อยสด ไม่ต้องเผา คุ้มกว่า เร็วกว่า อีกด้วย..”
การใช้รถตัดอ้อยนั้นจำเป็นต้องเตรียมแปลงมาให้ดี สร้างแนวเบดฟอร์มไว้ให้รถวิ่งก็ช่วยลดอุบัติเหตุในแปลงอ้อยได้ เพราะเมื่อก่อนการใช้แรงงานคนจะจ่ายเงินทุนค่าแรง ไหนจะต้องดูแลคนงาน แต่เมื่อออกรถตัดอ้อย จึงทำให้มีอ้อยสดเกือบทั้งหมด วางแผนปลูกอ้อยในปีต่อไปได้ดีมีคุณภาพมากขึ้น ถ้าเทียบแล้วอ้อยสดยังไงเสียก็ดีกว่า ทำง่ายกว่า อีกอย่างตัดอ้อยสดเราได้ปุ๋ยจากใบที่เราทิ้งไว้คลุมดินด้วย ไร่เราก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ อ้อยตอก็ดี ไม่ค่อยตายแล้ว แถมช่วยเก็บความชื้นได้ดีขึ้นด้วย ประหยัดค่าปุ๋ย ประหยัดค่าน้ำไปได้ในตัวเลย ต้นทุนที่ลดได้ก็เอากลับมาคิดเพิ่มประสิทธิภาพให้ไร่เรานั่นแหละ”
จะเห็นได้ว่าการทำเกษตรยุคใหม่แบบ 5G ในไร่อ้อยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตจากลำอ้อย การวางแผนตัดอ้อยที่ดีโดยการใช้รถตัดอ้อยจะช่วยให้การทำเกษตรอ้อยได้ประโยชน์ที่มากขึ้นทั้งเรื่องแรงงาน เวลาและต้นทุนในการผลิต ซึ่งประโยชน์และข้อดีที่ได้ ต่างจากการทำไร่แบบเดิมอย่างเป็นที่น่าพอใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : mitrpholmodernfarm.com
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
อ้อยสดดีกว่าอ้อยเผาอย่างไร ทำไมรถตัดอ้อยถึงสำคัญ
อ้อยสดดีกว่าอ้อยเผาอย่างไร ทำไมรถตัดอ้อยถึงสำคัญ
ที่ผ่านมาชาวไร่อ้อยมีความเชื่อว่าการตัดอ้อยสดพักใบคลุมดินจะทำให้อ้อยแตกหน่อน้อย มีจำนวนลำน้อย ลำอ้อยมีขนาดใหญ่ ขณะที่การเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยวจะทำให้อ้อยแตกหน่อเร็ว มีจำนวนหน่อมากแต่จะมีขนาดหน่อเล็กลง
และการรณรงค์ให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดแทนการเผาก่อนตัดนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ยังต้องใช้กำลังในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงปลูกจิตสำนึกของชาวไร่อ้อยให้รับรู้ถึงผลกระทบการจากเผาอ้อยที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของข้อมูลเรื่องคุณภาพอ้อยที่ผ่านมาการตัดอ้อยสด และไว้ใบคลุมดิน ทำให้อ้อยตอมีผลผลิตมากกว่าการเผาอ้อย 1.2-1.5 ตันต่อไร่ ขณะเดียวกันพบว่า แปลงอ้อยที่ตัดสดไว้ใบคลุมดิน จะสูญเสียความชื้น และเกิดการชะล้างพังทะลายของดินน้อยกว่า โดยเฉพาะในแปลงที่มีความลาดชันสูง เช่น ในกรณีที่แปลงมีความลาดชัน 11% การตัดอ้อยสด และไว้ใบคลุมดินจะลดการสูญเสียน้ำฝนจากการไหลหลากออกนอกแปลงได้ถึง 90% และลดการชะล้างพังทะลายของดินได้ถึง 60% ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้อ้อยมีการไว้ตอได้น้อยลง ชาวไร่ต้องไถรื้อตอบ่อยมากขึ้น แน่นอนว่าทำให้เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
แน่นอนว่าในสภาพอากาศร้อน การเผาอ้อยก่อนตัดทำให้ความหวานของอ้อยลดลงวันละ 2.3% ขณะที่การตัดอ้อยสด ความหวานจะลดลงวันละ 1.6% ซึ่งต่างกันถึง 40% เลยทีเดียว โดยพบว่า เมื่อเผาอ้อย ลำอ้อยเมื่อโดนความร้อนสูงลำจะแตก น้ำอ้อยจะเยิ้มซึมออกมา เชื้อโรคจะเข้าไปใช้น้ำตาลในลำอ้อยเป็นอาหาร ทำให้คุณภาพอ้อยลดลง และเชื้อจุลินทรีย์ยังไปสร้างสารเหนียว ซึ่งไปขัดขวางกระบวนการผลิตน้ำตาลในโรงงาน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำน้ำตาลมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การตัดอ้อยสด คือการรักษาคุณภาพของอ้อยได้มากกว่าการตัดอ้อยเผาใบแน่นอน ทั้งด้านค่าความหวานและปริมาณน้ำตาลที่ได้ จึงไม่แปลกที่โรงงานน้ำตาลเกือบทุกแห่ง สร้างแรงจูงใจให้ชาวไร่หันมาตัดอ้อยสดแทนการเผา ทั้งการหักค่าอ้อยไฟไหม้ และราคาที่ได้ ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
พวกเรา Thai-A เราจึงอยากให้ชาวไร่อ้อยทุกท่านได้ตะหนักถึงการตัดอ้อยสดไม่ว่าจะใช้ทรัพยากรณ์คนหรือเลือกใช้รถตัดอ้อยก็เห็นสมควรทั้งสิ้น การเลือกใช้รถตัดอ้อยฝีมือคนไทยทำแน่นอนว่าราคาถูกลงแต่คุณภาพจัดเต็มเพราะเราฟังเสียงจากชาวไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดอ้อยให้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : mitrpholmodernfarm.com
Thai-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร และอะไหล่ ตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย ช่วยท่านลดต้นทุนการผลิต มีกำไรเพิ่มมากขึ้น และยังมีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency